ค้นหาสินค้า
เครื่องกรองน้ำRO อุตสาหกรรม
- เครื่องกรองน้ำRO 500-2,000 ลิตรต่อวัน
- เครื่องกรองน้ำRO 3,000 ลิตรต่อวัน - เครื่องกรองน้ำRO 6,000 ลิตรต่อวัน - เครื่องกรองน้ำRO 12,000 ลิตรต่อวัน - เครื่องกรองน้ำRO 24,000 ลิตรต่อวัน -เครื่องกรองน้ำRO 48,000 ลิตรต่อวัน - เครื่องกรองน้ำRO 3,000 ลิตรต่อวัน +Pre Treatment - เครื่องกรองน้ำRO 6,000 ลิตรต่อวัน +Pre Treatment - เครื่องกรองน้ำRO 12,000 ลิตรต่อวัน +Pre Treatment - เครื่องกรองน้ำRO 6,000 ลิตรต่อวัน +Pre Treatment ถังสแตนเลส - เครื่องกรองน้ำRO มากกว่า 2,000 ลิตรต่อชั่วโมง -ไส้กรองเมมเบรนRO สารกรองน้ำคาร์บอน แมงกานีส กรวดทราย
บทความความรู้ทั่วไป
สถิติเว็บไซต์
เปิดเว็บเมื่อ : 2015-07-31
จำนวนสมาชิก : 5 คน ปรับปรุงเมื่อ : 2025-05-07 จำนวนครั้งที่ชม : 962,210 ครั้ง Online : 12 คน จำนวนสินค้า : 83 รายการ |
สารกรองน้ำคาร์บอน Jacobi Aquasorb1000 & 2000
|
Property | Aquasorb 2000 | Aquasorb 1000 |
Appearance | Granular | Granular |
Based | Bituminous Coal | Bituminous Coal |
Activation | Steam | Steam |
Iodine number(Micorpore) | Min 950 mg/g | Min 850 mg/g |
Methylene blue number(Mesopore) | 280 mg/g | 200 mg/g |
Moisture Content | Max 5% | Max 5% |
ระบบกรองน้ำดื่ม
ใช้เพื่อกำจัดคลอรีน กลิ่น สี และสารอินทรีย์
ระบบกรองน้ำใช้ในครัวเรือน
เช่น เครื่องกรองน้ำแบบหัวก๊อก หรือเครื่องกรองใต้ซิงก์
ระบบกรองน้ำอุตสาหกรรม
เช่น ระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ (Pure Water), ระบบ RO, หรือในโรงงานอาหารและยา
ระบบบำบัดน้ำเสีย
ใช้เพื่อดูดซับสารพิษ สารเคมีตกค้าง หรือโลหะหนักบางชนิดก่อนปล่อยน้ำออกสู่สิ่งแวดล้อม
อุตสาหกรรมอื่น ๆ
เช่น การใช้ดูดกลิ่นในโรงงาน การกรองอากาศ การผลิตหน้ากากอนามัย
Iodine Number คือ ค่าที่ใช้บ่งบอกความสามารถของ Activated Carbon ในการดูดซับโมเลกุลขนาดเล็ก เช่น สารอินทรีย์ที่ละลายน้ำได้ โดยค่าดังกล่าวมาจากการทดสอบปริมาณไอโอดีน (Iodine) ที่สามารถดูดซับได้บนพื้นผิวของคาร์บอนกัมมันต์
ค่าดัชนีไอโอดีนวัดเป็นหน่วย มิลลิกรัมต่อกรัม (mg/g) ซึ่งหมายถึง ปริมาณไอโอดีนที่สามารถดูดซับได้ต่อคาร์บอน 1 กรัม ยิ่งค่า ID สูง แสดงว่า Activated Carbon นั้นมีพื้นที่ผิวและรูพรุนมาก จึงมีศักยภาพในการดูดซับสารได้ดี
ค่า ID ทั่วไปของ Activated Carbon จะอยู่ในช่วง 500–1200 mg/g
500–700 mg/g: ประสิทธิภาพทั่วไป เหมาะกับการใช้งานทั่วไป เช่น การกรองกลิ่น สี คลอรีน พื้นฐาน
800–1000 mg/g: ประสิทธิภาพระดับกลางถึงสูง เหมาะกับระบบกรองน้ำดื่ม หรือระบบ RO
>1000 mg/g: คุณภาพสูง เหมาะกับงานอุตสาหกรรมเฉพาะทาง เช่น การกรองสารเคมีระเหย หรือสารพิษ
ชี้วัดพื้นที่ผิวของคาร์บอน
คาร์บอนที่มีค่า ID สูงแสดงถึงพื้นที่ผิวขนาดใหญ่ ซึ่งหมายความว่ามีจุดให้สารปนเปื้อนเกาะได้มาก จึงดูดซับได้ดีกว่า
ประเมินอายุการใช้งาน
ค่าที่สูงมักสื่อถึงความสามารถในการดูดซับมากกว่า จึงใช้งานได้นานก่อนอิ่มตัว (saturation)
เปรียบเทียบคุณภาพของคาร์บอนแต่ละชนิด
ผู้ผลิตสารกรองคาร์บอนหลายรายจะระบุค่า ID ไว้บนสเปกสินค้า เพื่อให้ผู้ใช้งานเลือกตามความต้องการ
ใช้ประเมินประสิทธิภาพหลังการใช้งาน
การทดสอบ ID ของสารกรองที่ใช้งานแล้ว ช่วยประเมินได้ว่าสารกรองหมดอายุหรือยัง
น้ำดื่มทั่วไป: ควรเลือก Activated Carbon ที่มีค่า ID ประมาณ 800–1000 mg/g
ระบบ RO/DI: ควรใช้ ID สูงกว่า 1000 mg/g เพื่อรองรับการกรองที่ต้องการความบริสุทธิ์สูง
ระบบบำบัดน้ำเสีย: หากเป็นการดูดซับสารอินทรีย์ ควรใช้ ID มากกว่า 900 mg/g
ค่า ID ไม่สามารถบ่งชี้ความสามารถในการดูดซับสารโมเลกุลขนาดใหญ่ เช่น น้ำมัน หรือสารสี (Color Bodies) ได้อย่างสมบูรณ์ จึงควรพิจารณาร่วมกับค่าพารามิเตอร์อื่น เช่น Methylene Blue Number (MBN)
Activated Carbon ที่มีค่า ID สูงมาก อาจมีต้นทุนสูง และไม่จำเป็นต้องใช้ในระบบทั่วไปเสมอไป ควรเลือกตามความเหมาะสม
Q: Iodine Number คืออะไร?
A: เป็นค่าที่บอกความสามารถของ Activated Carbon ในการดูดซับสารอินทรีย์ขนาดเล็ก โดยวัดจากปริมาณไอโอดีนที่สามารถดูดซับได้ต่อ 1 กรัมของคาร์บอน
Q: ค่า ID เท่าไรถึงถือว่าดี?
A: สำหรับงานกรองน้ำดื่มหรือระบบทั่วไป ค่า ID ที่เหมาะสมคือ 800–1000 mg/g ส่วนงานเฉพาะทางควรใช้มากกว่า 1000 mg/g
Q: ค่า ID ส่งผลต่ออายุการใช้งานหรือไม่?
A: ส่งผลโดยตรง ค่า ID ที่สูงกว่าจะมีพื้นที่ผิวมากกว่า จึงดูดซับได้มากและใช้ได้นานขึ้น
Q: ค่า ID เหมือนกับค่ากรองกลิ่นหรือไม่?
A: ไม่เหมือนกัน ค่า ID วัดการดูดซับสารโมเลกุลเล็ก ส่วนการกรองกลิ่นอาจต้องพิจารณาค่าอื่นร่วมด้วย เช่น Methylene Blue Number
Q: ควรดูแค่ค่า ID อย่างเดียวพอไหม?
A: ไม่พอ ควรดูคุณสมบัติอื่นร่วมด้วย เช่น ประเภทของรูพรุน ความหนาแน่น ความแข็งแรง และลักษณะของน้ำที่จะกรอง